วันพฤหัสบดีที่ 11 พฤษภาคม พ.ศ. 2560

พระราชทานเพลิงศพ( (3)

พระราชทานเพลิงศพ( (3)



การปฏิบัติเกี่ยวกับหีบเพลิงพระราชทาน

สำหรับกรณีที่มีการขอพระราชทานเพลิงศพ แต่ศพอยู่ต่างจังหวัด (ห่างจากสำนักพระราชวังเกิน 50 กิโลเมตร) นั้น เมื่อกระทรวงเจ้าสังกัด ผู้ว่าราชการจังหวัด หรือเจ้าภาพ แล้วแต่กรณี ได้มีหนังสือแจ้งมายังสำนักพระราชวังแล้ว หากศพนั้นอยู่ในเกณฑ์ ทางสำนักพระราชวังจะมีหมายรับสั่งแจ้งให้เจ้าภาพ

ศพทราบ เพื่อให้เจ้าภาพหรือผู้แทนไปขอรับหีบเพลิงพระราชทานที่กองพระราชพิธี สำนักพระราชวังเมื่อได้รับแล้วต้องปฏิบัติตามขั้นตอน ดังนี้

1. เชิญหีบเพลิงพระราชทาน ไปวางที่ศาลากลางจังหวัด อำเภอหรือหน่วยราชการที่สังกัดในท้องที่ หรือที่บ้านแล้วแต่กรณี ควรมีพานรองรับหีบเพลิงพระราชทานนั้นด้วย

2. เมื่อถึงกำหนดวันพระราชทานเพลิงศพ ให้ทางเจ้าภาพจัดหาเจ้าหน้าที่หรือญาติที่เป็นข้าราชการแต่งเครื่องแบบปกติขาวไว้ทุกข์ เพื่อเชิญหีบเพลิงพระราชทานพร้อมด้วยพานรอง  (หนึ่งหีบต่อหนึ่งคนไปยังเมรุที่จะประกอบพิธี และก่อนที่จะเชิญพานหีบเพลิงพระราชทานไปตั้งไว้ด้านศีรษะศพ (บนโต๊ะที่ตั้งหีบเพลิงจะต้องมีผ้าปูให้เรียบร้อย และห้ามมิให้นำสิ่งหนึ่งสิ่งใดวางร่วมอยู่ด้วยเป็นอันขาดเมื่อเชิญเรียบร้อยแล้ว ให้ผู้เชิญคำนับเคารพศพครั้งหนึ่งแล้วจึงลงจากเมรุ

3. ขณะที่เชิญพานหีบเพลิงพระราชทานไปนั้น ต้องระมัดระวังกิริยามารยาทโดยสำรวมไม่ต้องทำความเคารพผู้ใด และไม่ต้องเชิญหีบเพลิงพระราชทานเดินตามหลังผู้หนึ่งผู้ใดเป็นอันขาด

4. ผู้ที่ไปร่วมงานพระราชทานเพลิงศพ ทั้งประชาชน ข้าราชการ และพนักงานลูกจ้างรัฐวิสาหกิจ ควรแต่งกายไว้ทุกข์ตามประเพณีนิยม ในกรณีลูกหลานหรือญาติ รวมทั้งผู้ที่เคารพนับถือผู้วายชนม์ที่รับราชการ จะแต่งกายชุดปกติขาวไว้ทุกข์ ก็จะเป็นเกียรติแก่ผู้วายชนม์และยังนับว่าเป็นการถวายพระเกียรติ

5. ผู้ที่ตั้งแถวรอรับหีบเพลิงพระราชทานเดินไปสู่เมรุ ควรเป็นเจ้าภาพงาน การแต่งกาย ควรแต่งกายไว้ทุกข์ตามประเพณีนิยม ในกรณีที่เป็นข้าราชการแต่งกายปกติขาวไว้ทุกข์

6. ระหว่างเจ้าหน้าที่ เชิญหีบเพลิงพระราชทานเดินไปสู่เมรุนั้น ประชาชนที่มาร่วมงานควรนั่งอยู่ในความสงบโดยมิต้องยืนขึ้น ไม่ต้องทำความเคารพและไม่มีการบรรเลงเพลงอย่างใดทั้งสิ้น  เพราะยังไม่ถึงขั้นตอนของพิธีการ เจ้าหน้าที่ผู้เชิญก็มิใช่ผู้แทนพระองค์ เป็นการปฏิบัติหน้าที่ตามที่ได้รับมอบหมาย

7. เมื่อถึงกำหนดเวลาพระราชทานเพลิง ให้เจ้าภาพเชิญแขกที่มาในงานที่มีอาวุโสสูงสุดขึ้นเป็นประธานจุดเพลิง ประธานในพิธีจุดเพลิงที่อาวุโสสูงสุดนั้น หมายถึง อาวุโสทั้งในด้านคุณวุฒิและวัยวุฒิ ทั้งนี้ หากมีพระราชวงศ์ตั้งแต่ชั้นหม่อมเจ้าขึ้นไป หรือราชสกุลที่มีเกียรติในราชการ ซึ่งศพหรือทายาทอยู่ใต้

บังคับบัญชา หรือเป็นผู้ที่เคารพนับถือแล้ว สมควรเชิญบุคคลนั้นเป็นประธาน

8. ในกรณีที่มีการอ่านหมายรับสั่ง ประวัติผู้วายชนม์ สำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ ควรอ่านตามลำดับ ดังนี้

หมายรับสั่ง แสดงถึงการได้รับพระราชทานเพลิงศพ

ประวัติผู้วายชนม์ เพื่อประกาศเกียรติคุณ

สำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ



ขั้นตอนการพระราชทานเพลิง (หีบเพลิง)

1. ผู้เป็นประธานเปิดหีบเพลิง

2. หยิบเทียนชนวนมอบให้แก่เจ้าหน้าที่ผู้เชิญถือไว้

3. หยิบกล่องไม้ขีดไฟจุดเทียนชนวน รอจนเทียนลุกไหม้ดีแล้ว

4. ผู้เป็นประธานถวายบังคม (ไหว้ไปที่หน้าหีบเพลิงที่วางอยู่ หยิบธูป ดอกไม้จันทน์เทียน จุดไฟหลวงจากเทียนชนวน แล้วจึงวางไว้ใต้กลางฐานตั้งหีบศพ เป็นอันเสร็จพิธี

การขอดินพระราชทาน

ประเทศไทยเป็นประเทศที่ประชาชนมีอิสระในการเลือกนับถือศาสนา ซึ่งธรรมเนียมการปฏิบัติของแต่ละศาสนาเกี่ยวกับงานศพก็แตกต่างกันไป บ้างก็ใช้วิธีการเผา บ้างก็ใช้วิธีการฝังดิน ดังนั้น จึงทรง

พระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานดินฝังศพ สำหรับผู้ที่ประกอบคุณงามความดี  ซึ่งอยู่ในหลักเกณฑ์เดียวกันกับการขอพระราชทานเพลิงศพแต่มีพิธีกรรมทางศาสนาที่ใช้ดินฝัง กล่าวคือ

เป็นข้าราชการตั้งแต่ระดับปฏิบัติการขึ้นไป (ระดับ 3 เดิมสำหรับในกรณียังไม่ได้รับเครื่องราชอิสริยาภรณ์

ผู้ที่ได้รับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ตั้งแต่ชั้นเบญจมาภรณ์มงกุฎไทย (..) ขึ้นไป

บิดา มารดาของข้าราชการระดับชำนาญงานและระดับชำนาญการขึ้นไป (ระดับ 6เดิม)

บิดา มารดาของผู้ที่ได้รับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ตั้งแต่ ชั้นตริตาภรณ์ช้างเผือก (..) ขึ้นไป

โดยดินพระราชทานจะเป็นห่อเล็ก ๆ สีขาวกับสีดำ จำนวน ๑๐ คู่พร้อมด้วยเครื่องขมาศพ ซึ่งหลังจากเจ้าหน้าที่ได้เชิญดินพระราชทานไปวางหน้าหีบศพ (ด้านศีรษะ) แล้ว ประธานในพิธีจะหยิบกระทงข้าวตอกดอกไม้ (เครื่องขมาศพจากพนักงานพระราชพิธีวางบนหีบศพ ก่อนที่จะหยิบห่อดินพระราชทานครั้งละ ๑ คู่วางเรียงต่อจากเครื่องขมาศพจนครบ จากนั้นแขกและญาติมิตรจึงค่อยทำการฝังศพต่อไป







􀁕 HR – Revenue Department <October, 2011 by

อ้างอิง   www.rd.go.th/publish/fileadmin/user_upload/roa/Ry160_542.pdf


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น